บริการ

เงินกู้โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้รับบำนาญหรือบำเหน็จรายเดือน  (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1.  ต้องเป็นสมาชิกสามัญที่เป็นผู้รับบำนาญหรือบำเหน็จรายเดือนเท่านั้น
2.  ต้องอยู่ระหว่างการส่งค่าหุ้นรายเดือน
3.  สมาชิกสามารถขอกู้เงินได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝากซึ่งปลอดภาระที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์
4.  ใช้ทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝากเป็นหลักประกัน
5.  ผู้กู้ต้องชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือนตั้งแต่วันที่ได้รับเงินจากสหกรณ์จนถึงวันที่สมาชิกภาพสิ้นสุดลง
6.  การชำระคืนต้นเงินกู้ ผู้กู้อาจชำระคืนทั้งจำนวนหรือบางส่วนภายในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้
7.  อัตราดอกเบี้ย 4.00%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้รับบำนาญหรือบำเหน็จรายเดือน (สบน.)
2. หนังสือกู้เงินโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้รับบำนาญหรือบำเหน็จรายเดือน (สบน.)
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้
4. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ

ผู้อนุมัติ : ผู้จัดการ และนำเสนอคณะกรรมการเงินกู้เพื่อทราบ

เงินกู้โครงการสินเชื่อเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด และ/หรือโน้ตบุ๊ก (สมาชิกสามัญ/สมาชิกสมทบ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 6 เดือน 
2. กู้ได้ตามราคาโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด และ/หรือโน้ตบุ๊ก รวมทั้งโปรโมชั่นค่าบริการจ่ายล่วงหน้า ที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท
3. ใช้ทุนเรือนหุ้นเป็นหลักประกันก่อน / บุคคลค้ำประกัน
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15 %
6. การผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 36 งวด (ไม่เกินอายุสัญญาจ้างที่เหลือ สำหรับสมาชิกสามัญพนักงานราชการ/สมาชิกสมทบ)
7. กรณีได้รับเงินกู้ไปแล้วแต่ไม่มีการซื้อโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด และ/หรือโน้ตบุ๊ก ต้องส่งใช้เงินกู้คืนสหกรณ์พร้อมดอกเบี้ย ภายใน 15 วัน 
8. อัตราดอกเบี้ย 2.50%

เอกสารประกอบการขอกู้

1. คำขอกู้โครงการเงินสินเชื่อเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด และ/หรือโน้ตบุ๊ก
2. หนังสือกู้เงินโครงการเงินสินเชื่อเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด และ/หรือโน้ตบุ๊กล
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. ใบเสร็จหรือเอกสารรูปถ่ายที่แสดงราคาของสินค้าที่จะซื้อ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
7. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้าง / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
 

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

เงินกู้โครงการเงินกู้สหกรณ์ช่วยด้วยใจ (สมาชิกสามัญ/สมาชิกสมทบ)
คุณสมบัติผู้กู้
1.  สำหรับสมาชิกที่ประสงค์กู้ทุนเรือนหุ้น + เงินฝาก ของตนเอง
2.  เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 6 เดือน
3.  เงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15%
4.  ต้องไม่มีหนี้เงินกู้สามัญ เงินกู้ สพช. เงินกู้ซื้อรถยนต์ ค้างชำระ
5.  กู้ได้ร้อยละ 90 ของทุนเรือนหุ้น+เงินฝากที่มีอยู่แต่ไม่เกิน 2,000,000 บาท
6.  ใช้ทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝากเป็นหลักประกัน
7.  สมาชิกสามัญชำระคืนภายใน 180 งวด
     สมาชิกสามัญที่เป็นพนักงานราชการและสมาชิกสมทบชำระคืนภายใน 48 งวด
8.  ชำระคืนต้นเงินกู้มาแล้ว 1 งวด ขอกู้ใหม่ได้ โดยต้องยินยอมให้หักหนี้ที่ยังค้างชำระ
9.  เมื่อกู้เงินไปแล้ว หากจะชำระหนี้ก่อนกำหนด จะต้องชำระหนี้โครงการนี้ก่อนหนี้เงินกู้ประเภทอื่น
10.อัตราดอกเบี้ย 4.00%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญภายในทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝาก
2. หนังสือกู้เงินสามัญภายในทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝาก
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้
5. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ

ผู้อนุมัติ : ผู้จัดการ และนำเสนอคณะกรรมการเงินกู้เพื่อทราบ

เงินกู้โครงการเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ส่วนบุคคล (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ปี 
2. ใข้สิทธิกู้ให้กับตนเองหรือบุคคลในครอบครัวได้
3. กู้ได้ตามราคารถยนต์ฯ วงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท (เมื่อรวมกับหนี้ประเภทอื่นแล้วต้องไม่เกิน 2,000,000 บาท)
4. ใช้ทุนเรือนหุ้นเป็นหลักประกันก่อน / บุคคลค้ำประกัน
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15 %
6. การผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 120 งวด แต่ไม่เกินอายุ 70 ปีบริบูรณ์
7. กรณีได้รับเงินกู้ไปแล้วแต่ไม่มีการซื้อรถยนต์ฯ ต้องส่งใช้เงินกู้คืนสหกรณ์พร้อมดอกเบี้ย ภายใน 45 วัน 
8. อัตราดอกเบี้ย 3.00%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้โครงการเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ส่วนบุคคล
2. หนังสือกู้เงินโครงการเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ส่วนบุคคล
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. ใบเสนอราคา ใบจอง เอกสารการจ่ายเงินล่วงหน้า(เงินดาวน์) สัญญาจะซื้อจะขาย
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
7. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้าง / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
8. สำเนาเอกสารแสดงนิติสัมพันธ์ของสมาชิกและบุคคลในครอบครัว (กรณีกู้ให้บุคคลในครอบครัว)

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินสหกรณ์เพิ่มสุข(สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. เป็นสมาชิกสามัญที่เป็นพนักงานราชการ
3. มีเงินได้รายเดือนเพียงพอหักชำระหนี้และคงเหลือไม่น้อยกว่าเดือนละ 1,000 บาท
4. วงเงินกู้รายละไม่เกิน 60,000 บาท
5. สมาชิกสามัญที่เป็นพนักงานราชการขอกู้ได้รายละไม่เกิน 40,000 บาท และให้มีผู้ค้ำประกัน
    ซึ่งเป็นสมาชิกสามัญอย่างน้อย 1 คน หรือสมาชิกสามัญที่เป็นพนักงานราชการอย่างน้อย 2 คน
6. ผ่อนชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 12 งวด
7. เมื่อชำระคืนต้นเงินกู้มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 งวด ขอกู้ใหม่ได้
8. อัตราดอกเบี้ย 3.90%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้และหนังสือกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินสหกรณ์เพิ่มสุข
2. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ

ผู้อนุมัติ : ผู้จัดการ

 

เงินกู้สามัญโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ปี และมีอายุราชการคงเหลือไม่น้อยกว่า 20 ปี
2. สมาชิกมีสิทธิกู้ได้ไม่เกิน 2,000,000 บาท
3. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15%
4. ต้องใช้ทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝากสหกรณ์ / บุคคลค้ำประกัน
5. อัตราดอกเบี้ย งวดที่ 1 - 36 ร้อยละ 3.50
       งวดที่ 37 - 60          ร้อยละ 4.50
       งวดที่ 61 เป็นต้นไป  ร้อยละ 5.50
6. ผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 180 งวด
7. ผู้กู้ต้องทำประกันชีวิตกลุ่มทุกปีและทำประกันสินเชื่อเงินกู้ส่วนที่เกิน 1.5 ล้าน
8. กรณีพ้นสภาพการเป็นข้าราชการต้องชำระคืนหนี้ที่คงค้างทั้งจำนวน

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คําขอกู้เงินกู้พิเศษโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี 1 ชุด
2. หนังสือยินยอมให้หักเงินฝากและหรือทุนเรือนหุ้นชําระหนี้ 1 ฉบับ
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. กรณีผู้กู้และผู้ค้ําประกันมีคู่สมรสต้องให้คู่สมรสลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงิน หากคู่สมรสถึงแก่กรรมหรือหย่า ต้องแนบสําเนาใบมรณะบัตรหรือสําเนาใบหย่า
5. หนังสือค้ำประกัน
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
7. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

เงินกู้สามัญสำหรับสมาชิกสามัญ (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ปี 
2. มีสิทธิกู้ได้ไม่เกินสิบห้าเท่าของทุนเรือนหุ้นและเงินฝากสหกรณ์ วงเงินไม่เกิน 2,000,000 บาท
3. ใช้ทุนเรือนหุ้นเป็นหลักประกันก่อน / บุคคลค้ำประกัน
4. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15 %
5. การผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 180 งวด แต่ไม่เกินอายุ 75 ปีบริบูรณ์ กรณีผ่อนชำระครบ 6 เดือนแล้ว สามารถยื่นกู้ใหม่ได้
6. อัตราดอกเบี้ย 5.50%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญ
2. หนังสือกู้เงินสามัญ
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
6. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้าง / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

เงินกู้สามัญภายในทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝากสหกรณ์ (สมาชิกสามัญ/สมาชิกสมทบ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 เดือน กู้ได้ตลอดระยะเวลาการเป็นสมาชิก
2. มีสิทธิกู้ได้ไม่เกินร้อยละร้อยของทุนเรือนหุ้นและเงินฝากสหกรณ์
3. ต้องมีเงินได้รายเดือนพอหักชำระหนี้
4. สมาชิกสามัญผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 180 งวด
    สมาชิกสมทบผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 48   งวด
5. ผ่อนชำระ 1 งวดแล้ว สามารถยื่นกู้ใหม่ได้
6. อัตราดอกเบี้ย 5.50%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญภายในทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝาก
2. หนังสือกู้เงินสามัญภายในทุนเรือนหุ้นและหรือเงินฝาก
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้
5. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ

ผู้อนุมัติ : ผู้จัดการ และนำเสนอคณะกรรมการเงินกู้เพื่อทราบ

 

เงินกู้สามัญโครงการส่งเสริมสภาพคล่องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต (ส.พ.ช.)(สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า 1 ปี
2. มีสิทธิกู้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท วงเงินกู้รวมกับเงินกู้สามัญไม่เกิน 2,000,000 บาท
3. ผู้กู้ต้องมีอายุไม่เกิน 56 ปีบริบูรณ์
4. ใช้บุคคลค้ำประกัน
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15%
6. ผ่อนชำระดอกเบี้ยจำนวน 36 งวด ชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี
7. อัตราดอกเบี้ย 5.50%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญ (ส.พ.ช.)
2. หนังสือกู้สำหรับเงินกู้สามัญ (ส.พ.ช.)
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
6. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน(สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 เดือน
2. มีสิทธิกู้ได้ไม่เกินสามเท่าของเงินเดือน วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท
3. ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน
4. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
5. ผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 12 งวด
6. เมื่อชำระคืนต้นเงินกู้มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 งวด ขอกู้ใหม่ได้
7. อัตราดอกเบี้ย 5.50%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้และหนังสือกู้เงินเพื่อเหตุฉุกเฉิน
2. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้างประจำ / บำนาญ

ผู้อนุมัติ : ผู้จัดการ

 

เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินด้านการศึกษา(สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกสามัญ
2. มีสิทธิกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท ยื่นคำขอกู้ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ต่อปีการศึกษา
3. ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน
4. ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงการศึกษาของตนเอง / คู่สมรส / บุตร
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
6. ผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 6 งวด
7. อัตราดอกเบี้ย 4.00%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้และหนังสือกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินด้านการศึกษา
2. หนังสือรับรองของสถาบันการศึกษา หรือใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา

ผู้อนุมัติ : ผู้จัดการ

 

เงินกู้โครงการเงินกู้เพื่อการท่องเที่ยว (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 6 เดือน 
2. สำหรับสมาชิกและบุคคลในครอบครัวหรือผู้ติดตาม
    -ท่องเที่ยวภายในประเทศ รายละไม่เกิน 20,000 บาท รวมวงเงินกู้ไม่เกินครั้งละ 100,000 บาท
    -ท่องเที่ยวต่างประเทศ รายละไม่เกิน 100,000 บาท รวมวงเงินกู้ไม่เกินครั้งละ 200,000 บาท
3. ใช้ทุนเรือนหุ้นเป็นหลักประกันก่อน / บุคคลค้ำประกัน
4. ต้องมีหลักฐานใบเสนอราคา ใบจอง เงินมัดจำ ของบริษัททัวร์ฯ
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15 %
6. ผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 36 งวด
7. อัตราดอกเบี้ย 4.50%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญ(ท่องเที่ยว)
2. หนังสือกู้เงินสามัญ(ท่องเที่ยว)
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
6. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้าง / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

 

เงินกู้โครงการเงินกู้เพื่อซื้อจักรยานยนต์ (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 6 เดือน 
2. มีสิทธิกู้ได้ไม่เกิน 80,000 บาท
3. ต้องมีหลักฐานการชำระเงินมัดจำ ชำระทั้งจำนวน หลักฐานการซื้อขาย เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์
4. ใช้ทุนเรือนหุ้นเป็นหลักประกันก่อน / บุคคลค้ำประกัน
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15 %
6. การผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 36 งวด
7. อัตราดอกเบี้ย 3.00%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญ(จักรยานยนต์)
2. หนังสือกู้เงินสามัญ(จักรยานยนต์)
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
6. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้าง / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

 

เงินกู้โครงการเงินกู้เพื่อซื้อทองคำ (สมาชิกสามัญ)
คุณสมบัติผู้กู้
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 6 เดือน 
2. กู้ซื้อทองคำน้ำหนักไม่เกิน 2 บาท
3. ผู้กู้ต้องนำหลักฐานการชำระเงินซื้อทองคำให้สหกรณ์ภายใน 30 วัน นับจากรับเงินกู้
4. ใช้ทุนเรือนหุ้นเป็นหลักประกันก่อน / บุคคลค้ำประกัน
5. ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่า 15 %
6. การผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน 12 งวด
7. อัตราดอกเบี้ย 4.50%

เอกสารประกอบการขอกู้
1. คำขอกู้เงินสามัญ(ทองคำ)
2. หนังสือกู้เงินสามัญ(ทองคำ)
3. หนังสือยินยอมให้ส่วนราชการหักเงินชำระหนี้
4. หนังสือค้ำประกัน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน
6. ใบรับรองการจ่ายเงินเดือน / ค่าจ้าง / บำนาญ ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

ผู้อนุมัติ : คณะกรรมการเงินกู้

 

 

 

 

 

 

ดาวน์โหลดเอกสาร

 

เงื่อนไขการรับฝากและถอน "เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ"

1.  สมาชิกยื่นคำขอเปิดบัญชีเงินฝากประเภท "ออมทรัพย์พิเศษ" ตามแบบฟอร์มที่สหกรณ์กำหนด
2.  เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษได้เพียงบัญชีเดียว จำนวนเงินฝากในการเปิดบัญชีต้องไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
3.  สหกรณ์จะออกสมุดคู่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษให้สมาชิกเก็บรักษาไว้ การออกสมุดบัญชีเล่มใหม่ให้ต่อจากเล่มก่อน สมาชิกไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
     กรณีสมุดบัญชีสูญหายสหกรณ์จะออกเล่มใหม่ให้ โดยคิดค่าธรรมเนียมเล่มละ 10 บาท
4.  การฝากเงินฝากออมทรัพย์พิเศษจำนวนเงินฝากต้องไม่น้อยกว่า 1,000 บาท โดยไม่กำหนดจำนวนครั้งที่ฝาก แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท
5.  การฝากเงินฝากออมทรัพย์พิเศษให้สมาชิกโอนเงินผ่านทาง Krungthai Next ในวันทำการ เวลา 8.30 น. - 15.30 น.
6.  สมาชิกสามารถตรวจสอบยอดเงินฝากได้จากระบบข้อมูลสมาชิก หลังวันที่ 26 ของแต่ละเดือน
7.  จำนวนเงินฝากออมทรัพย์พิเศษคงเหลือในบัญชีต้องไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
8.  กรณีสมาชิกประสงค์ฝากเงิน/ขอเพิ่มหรือลดเงินฝาก โดยหักจากบัญชีเงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญหรือบำเหน็จรายเดือน ให้แจ้งสหกรณ์ภายในวันที่ 20 ของแต่ละเดือน
9.  การถอนเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ จำนวนเงินที่ถอนไม่น้อยกว่าครั้งละ 1,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน และให้ถอนได้เดือนละ 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
     หากเดือนใดมีการถอนมากกว่า 1 ครั้ง สหกรณ์จะคิดค่าธรรมเนียม การถอนครั้งที่ 2 และครั้งต่อ ๆ ไปในอัตราครั้งละ 100 บาท
10.การถอนเงินให้สมาชิกยื่นสมุดบัญชีคู่ฝากเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ พร้อมใบถอนเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ทั้งนี้ให้ระบุเลขบัญชีธนาคาร และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
     ในใบถอนฯเพื่อสหกรณ์จะโอนเงินที่สมาชิกถอนให้ผ่านทาง KTB Corporate Online และจะได้รับทราบการแจ้งยอดเงินเข้าบัญชีทางโทรศัพท์มือถือ
11.อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษร้อยละ 2.50
12.สหกรณ์จะบันทึกดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี สมาชิกสามารถนำสมุดคู่ฝากมาบันทึกได้ตั้งแต่วันทำการแรกของปีถัดไป
13.กรณีผู้ฝากเสียชีวิตสหกรณ์จะหักชำระหนี้(ถ้ามี) ก่อนจ่ายให้กับผู้รับประโยชน์ที่สมาชิกแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ไว้

 

ดาวน์โหลดเอกสาร

ข้อกำหนดเกี่ยวกับ "หุ้น"

1. มูลค่าหุ้นสหกรณ์มีมูลค่าหุ้นละ 10 บาท
2. สมาชิกทุกคนต้องชำระค่าหุ้นเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือนแรกที่เข้าเป็นสมาชิกในอัตราขั้นต่ำเดือนละ 500 บาท(50 หุ้น) สูงสุดไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท(500 หุ้น)
3. การชำระค่าหุ้นรายเดือน สหกรณ์จะหักจากเงินได้รายเดือน ค่าจ้าง บำนาญหรือบำเหน็จรายเดือนของสมาชิก
4. กรณีสมาชิกประสงค์ขอเพิ่มหุ้น ลุดหุ้น หรือถอนหุ้นกรณีลาออกจากการเป็นสมาชิกให้แจ้งความประสงค์ตามแบบฟอร์มที่สหกรณ์กำหนด
    และส่งให้สหกรณ์ไม่เกินวันที่ 15 ของเดือน ทั้งนี้สมาชิกสามารถขอเพิ่มหรือลดการถือหุ้นรายเดือนได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง
5. สมาชิกจะโอนหรือถอนหุ้นในระหว่างที่เป็นสมาชิกอยู่ไม่ได้
6. สมาชิกจะได้รับเงินปันผลจากมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม กรณีพ้นจากสมาชิกภาพ(ลาออกหรือถึงแก่กรรม)ในระหว่างปีทางบัญชี ไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
7. เมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง(ลาออกหรือถึงแก่กรรม)สหกรณ์มีสิทธินำค่าหุ้นที่มีอยู่มาหักกลบลบหนี้ที่ต้องชำระแก่สหกรณ์ได้
    โดยจ่ายค่าหุ้นส่วนที่เหลือให้กับผู้รับประโยชน์ที่สมาชิกแสดงความประสงค์ไว้

 

 

ดาวน์โหลดเอกสาร